ชุมพรประตูภาคใต้

ชุมพรประตูภาคใต้
ท่องเที่ยว ชุมพร

ประวัติความเป็นมาของจังหวัด ชุมพร


"ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ชึ้นชื่อรังนก"

ชุมพร มีชื่อปรากฎมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1098 โดยมีฐานะเป็นเมืองสิบ สองนักษัตรของนครศรีธรรมราช ใช้รูปแพะเป็นตราเมือง และเป็นเมืองหน้า ด่านฝ่ายเหนือเพราะอยู่ตอนบนของภาคใต้ ในพุทธศักราช 1997 รัชสมัย แผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ปรากฎในกฎหมายตราสามดวงว่าเมือง ชุมพร เป็นเมืองตรี อาณาจักรผ่ายใต้ของกรุงศรีอยุธยาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นมณฑลชุมพร ต่อมามีการยุบการปกครอง ระบอบมณฑลเป็นจังหวัด ชุมพรจึงมีฐานะเป็นจังหวัด

คำว่า "ชุมพร" มีผู้สันนิษฐานว่าจะมาจากคำว่า "ชุมนุมพล" เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านการเดินทัพไม่ว่าจะมาจากฝ่ายเหนือ หรือว่าฝ่ายใต้ ล้วนเข้ามาตั้งค่าย ชุมนุมพลกันที่นี่ จึงเรียกจุดนี้ว่า "ชุมนุมพล" ต่อมาเพี้ยนเป็น "ชุมพร" อีกประการหนึ่งในการเดินทางไป ทำศึกสงครามของแม่ทัพนายกอง ตั้งแต่สมัยโบราณมา เมื่อจะเคลื่อนพลจะต้องทำพิธีส่งทัพ โดยการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบเป็นการบำรุงขวัญทหาร ในสถานที่ชุมนุมเพื่อรับพรเช่นนี้ ตรงกับความหมายชุมนุมพร หรือประชุมพร ซึ่งทั้งสองคำ นี้อาจเป็นต้นเหตุของคำว่า "ชุมนุมพร" เช่นเดียวกัน

แต่อีกทางหนึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะได้มาจากชื่อพันธุ์ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ต้นมะเดื่อชุมพร เพราะที่ตั้งของเมืองชุมพรนั้นอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าตะเภา มีต้นมะเดื่อชุมพรขึ้นมากมาย ต้นมะเดื่อชุมพรจึงเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของตราประจำจังหวัดชุมพ

5 ความคิดเห็น:

  1. แจ๋ววว^^

    ว่าแต่ ดุสิตารีสอร์ท อยู่ที่ไหนคะ??

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. อยากกินผลไม้หลังสวนค่ะ ได้ข่าวมาว่าขึ้นชื่อหลายอย่าง
    มีอะไรบ้างค่ะ ^ ^

    ตอบลบ
  4. น่าไปเที่ยวแฮะ ปิดเทอมต้องลองไปดูดีปะ

    ตอบลบ

ประเพณีขึ้นโขนชิงธง อ.หลังสวน

ประเพณีขึ้นโขนชิงธง อ.หลังสวน
งานแห่พระแข่งเรือ ของ จังหวัดชุมพร ถือว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านาน จัดการแข่งขันกันโดยทั่วไป แต่ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นๆ คือ การแข่งขันเรือที่อำเภอหลังสวน ซึ่งไม่ถือเอาเส้นชัยเป็นเกณฑ์การตัดสิน แต่ตัดสินกันที่ธง นายหัวเรือลำใดสามารถคว้าธงที่ทุ่นเส้นชัยได้ก่อน ลำนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้น นอกจากจะต้องอาศัยความพร้อมเพรียงของฝีพายแล้ว ยังขึ้นอยู่กับความสามารถของนายท้ายเรือและนายหัวเรืออีกด้วย นายท้ายเรือต้องถือท้ายเรือให้ตรง เพื่อให้นายหัวเรือขึ้นโขนเรือไปชิงธงที่ทุ่นเส้นชัยได้ นายหัวเรือจะต้องกะจังหวะขึ้นโขน ขึ้นไปให้สุดปลายโขน เพื่อความได้เปรียบในการจับธง และคว้าธงให้มั่น ไม่ตกน้ำ แต่ถ้าในกรณีที่นายหัวเรือคว้าธงได้พร้อม ๆ กัน และได้ธงไปลำละท่อนจะถือว่าเสมอกัน